เมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาสุขภาพก็เพิ่มตามมา หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุคือ “ต้อกระจก” ซึ่งเป็นภาวะที่เลนส์ตาขุ่นมัว ทำให้มองเห็นไม่ชัด และหากปล่อยไว้โดยไม่รักษาอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นถาวรได้
คำถามสำคัญคือ ทำไมผู้สูงอายุจึงเสี่ยงเป็นต้อกระจกมากกว่ากลุ่มอายุอื่น? และมีปัจจัยอะไรที่เราสามารถควบคุมหรือป้องกันได้บ้าง?
---------------------------------------------------------
ต้อกระจกในผู้สูงอายุ: ภาพรวม
ข้อมูลจาก กรมการแพทย์ ระบุว่า
มากกว่า 80% ของผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มีภาวะต้อกระจกในระดับใดระดับหนึ่ง และเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียการมองเห็นในกลุ่มนี้
โดยโรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นฉับพลัน แต่จะค่อย ๆ พัฒนาอย่างช้า ๆ และมีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับทั้งอายุและปัจจัยเสริมอื่น ๆ
---------------------------------------------------------
สาเหตุต้อกระจกในผู้สูงอายุ
1. ความเสื่อมของเลนส์ตาตามอายุ (Age-related degeneration)
เมื่ออายุมากขึ้น โครงสร้างของเลนส์ตาจะเปลี่ยนไป โปรตีนในเลนส์จะจับตัวกันเป็นก้อน ทำให้แสงผ่านได้น้อยลง ส่งผลให้ภาพที่เห็นพร่ามัวขึ้นเรื่อย ๆ
ถือเป็น “สาเหตุธรรมชาติ” และเป็นกลไกหลักของต้อกระจกในผู้สูงวัย
2. การสะสมของอนุมูลอิสระ (Oxidative stress)
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะสร้างสารอนุมูลอิสระมากขึ้น ส่งผลให้เซลล์ในดวงตาเสื่อมเร็ว โดยเฉพาะเลนส์ตาซึ่งไม่มีเส้นเลือดมาเลี้ยงโดยตรง จึงบอบบางต่อความเสื่อม
3. การสัมผัสรังสี UV ต่อเนื่องนานหลายปี
ผู้สูงอายุในประเทศไทยจำนวนมากทำงานกลางแดด หรือใช้ชีวิตกลางแจ้งโดยไม่ป้องกันแสงแดดในวัยหนุ่มสาว ซึ่งทำให้เลนส์ตาสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลตสะสมต่อเนื่อง ส่งผลให้เสื่อมเร็วขึ้น
4. โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
- เบาหวานจะทำให้เลนส์ตาบวมและเสื่อมเร็ว
- ความดันโลหิตสูงส่งผลต่อหลอดเลือดในตา
ทำให้เกิดความเสี่ยงของต้อกระจกสูงกว่าคนปกติหลายเท่า
ข้อมูลจากราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ไทย ระบุว่า ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสเป็นต้อกระจกเร็วกว่าคนทั่วไปถึง 2–5 ปี
5. การใช้ยาสเตียรอยด์เป็นระยะเวลานาน
ในผู้สูงวัยที่เป็นโรคข้ออักเสบ หอบหืด หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง มักต้องใช้ยาสเตียรอยด์ ซึ่งยานี้เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดต้อกระจกได้ โดยเฉพาะชนิด Posterior Subcapsular Cataract
6. กรรมพันธุ์
หากมีคนในครอบครัวที่เป็นต้อกระจกในวัยใกล้เคียงกัน ก็มีโอกาสที่ตนเองจะเสี่ยงเป็นเร็วกว่าปกติ
7. พฤติกรรมเสี่ยงสะสมในอดีต
เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ทำงานหน้าจอคอมนานโดยไม่พักสายตา การบริโภคอาหารไขมันสูง และการพักผ่อนไม่เพียงพอในวัยหนุ่มสาว ล้วนเป็นตัวเร่งให้ตาเสื่อมเร็วขึ้น
---------------------------------------------------------
อาการที่ควรระวังในผู้สูงอายุ
- มองเห็นมัว เหมือนมีหมอกในตา
- มองเห็นแสงกระจายตอนกลางคืน
- สีจางลง มองสีผิดเพี้ยน
- แพ้แสง หรือรู้สึกไม่สบายตา
- ต้องเปลี่ยนแว่นบ่อยแต่ยังมองไม่ชัด
หากมีอาการเหล่านี้ ควรพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจเลนส์ตาทันที

แนวทางป้องกันสำหรับผู้สูงอายุ
✅ ตรวจสุขภาพตาทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่อายุเกิน 60 ปี
✅ สวมแว่นกันแดดที่ป้องกันรังสี UV เมื่อต้องออกกลางแจ้ง
✅ ควบคุมโรคประจำตัว โดยเฉพาะเบาหวานและความดัน
✅ ทานอาหารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักใบเขียว เบอร์รี่ แครอท
✅ เลิกบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์ ช่วยชะลอความเสื่อมของเลนส์ตา
✅ พักผ่อนให้เพียงพอ ส่งผลดีต่อสุขภาพตาและสมองร่วมกัน
---------------------------------------------------------
ต้อกระจกในผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่สามารถ ชะลอ หรือ ลดความรุนแรง ได้หากมีการดูแลอย่างเหมาะสมและตรวจตาเป็นประจำ ผู้สูงอายุที่มีอาการมองเห็นผิดปกติควรรีบพบแพทย์ตั้งแต่ระยะแรก เพื่อให้การรักษาได้ผลดี ไม่รอจนสายเกินไปจนสายตาเสียถาวร







